ว่าด้วยเรื่องของความเนียน
เป็นเรื่องที่น่าแปลกที่ผมได้เข้าใจความหมายของความเนียนหรือ smoothness ผ่านมุมมองของการเล่นกีฬาทั้งที่เร็วหรือกีฬาที่อันตราย ล้วนมีปรัชญาของความเนียนอยู่ทั้งสิ้น
วันก่อนผมได้เรียนกับ toyota racing school ที่สนาม Thailand circuit นครชัยศรี แน่นอนว่าเราต้องได้ลงไปขับรถที่เป็นรถแข่ง vios one make race ใน track โดยมี instructor นั้งประกบไปข้างๆ
นักเรียนยังไม่ชินกับทั้งรถทั้งสนามจึงเกร็ง หักพวงมาลัยทั้งเร็วทั้งเยอะ ทั้งจับทังบีบพวงมาลียแน่จะจนพวงมาลัยแทบแตก ปล่อยคลัชทีหัวคะมำจะกระแทกคอนโซลเอา
instructor ของผมบอกว่านักแข่งที่ดีจะต้องขับให้เนียนๆ เพราะความเนียนนุ่มนวลนี่แหละคือการตัดสินกีฬาที่อาศัยความเร็วที่สุดอย่างนึงบนโลกนี้!
เกมกีฬาที่ต้องการความเร็วสูงสุดยังต้องอาศัยความนุ่มนวลเป็นตัวตัดสิน instructor ท่านเดิมบอก tips เราว่าเวลาดูรถแข่งจะสังเกตเห็นได้ว่ากล้องที่ถ่ายจากใน cockpit ของนักแข่งเหมือนรถไปไม่ได้เร็วมากแต่จริงแล้ววิ่งเร็วกว่า 300 kmh อยู่ แต่เพราะความเนียนในการขับทำให้เรารูสึกว่ามันช้า
พอนักเรียนปรับตัวได้ลงไปขับอีกรอบ แบบเนียนๆ ทำเวลาได้ดีขึ้นเยอะครับ
กีฬาที่อันตรายที่มากอย่างการแข่งยิงปืนเร็วก็เช่นกันครับ การยิงปืนให้เข้าเป้านั้นสำคัญมากคือต้องลั่นไกให้เนียน คือไม่กระชากหรือกระตุกไก เพราะถ้ากระชากไกหรือกระตุกไก ปืนจะหัวทิ่มลงทันทีทำให้พลาดเป้าหมายไป เพราะฉะนั้นแม้จะยิงเร็วแค่ไหนก็ต้องลั่นไกให้เนียน
ในเกมของธุรกิจก็เช่นเดียวกันครับ การบริหารจัดการความสัมพันธ์หรือการบริหารจัดการคนต้องเนียน คือการไม่ให้อารมณ์ไม่ว่าจะเป็น โลภ โกรธ หลง เข้ามาทำให้การกระทำของเราไม่”เนียน” ถึงแม้เราจะโกรธใครอยู่ แต่เรายังต้องพยายามรักษาความเนียนของคำพูดและการกระทำของเราให้ได้ ถึงแม้เราจะหลงอะไรอยู่ แต่อย่าให้มันเข้ามาครอบงำจิตใจเราได้ ต้องบริหารความหลงแบบ”เนียนๆ”ให้ได้
ลองดูตัวอย่างผู้นำทางธุรกิจของโลกนี้นะครับ ทุกคนมี character ที่ “เนียน” ทั้งสิ้น แม้ว่าภายใต้ความเนียนเขาอาจจะกำลังเดือดพล่านอยู่ แต่เราไม่มีทางรู้ได้เลยครับเพราะคนกลุ่มนี้ฝึกฝนการรักษาความเนียนมาถึงขั้นสูงสุดและจะน้อยครั้งมากที่จะมีการแสดงอาการอะไรออกมาให้เราเห็น
เริ่มฝึกตั้งแต่วันนี้ เชื่อว่าทุกคนทำได้เช่นกันครับ
cheers
Tab
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น