เมืองไทยอย่าให้เป็นเมืองโจร
เหตุการณ์หลายอย่างเกิดขึ้นในบ้านเมืองของเราในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเป็นปรากฏการณ์ที่ผมคิดว่าแปลกและน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง
เหตุการณ์ล่าสุดที่ทำให้ผมเข้าใจถึงคุณภาพของ”คนไทย”บางกลุ่ม ได้แสดงออกมาถึงพื้นฐานทางจิตใจอันเลวร้าย คือเหตุการณ์จากงาน Expo ของ DTAC ซึ่งพฤติกรรมที่แสดงออกมาในคลิปที่ถ่ายมาใน youtube ซึ่งมีมากมายหลายคลิปมากแสดงให้เห็นถึงความไร้อารยะธรรม ไม่เคารพกฏหมาย ข่มขู่จะพังร้านและเผาร้านดีแทค และอีกมากมายของความสันดานอันเลวทรามของคนพวกนี้ และในที่สุด DTAC ก็ต้องทำตามที่พวก “มัน” เรียกร้องทั้งๆที่ไม่ใช่เงื่อนไขที่ DTAC ประกาศมาตั้งแต่ต้น
จริงๆปรากฏการณ์ของกฏหมู่ที่ไม่เคารพกฏหมาย ระรานและริดรอนสิทธิของผู้อื่นอย่างหนักเกิดขึ้นมาอย่างรุนแรงซักระยะหนึ่งแล้วครับ และทำท่าว่าจะหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่การปิดสนามบิน เผาเมือง รวมมาถึงเหตุการณ์กรณีรถบรรทุกปลาและรถขนน้ำมันดีเซลคว่ำ และล่าสุดเหตุการณ์กฏหมู่อยู่เหนือกฏหมายจากกรณีของ DTAC (ขอไม่พาดพิงถึงการเมืองนะครับ เดี๋ยวยาว)
ที่น่าเศร้าคือนอกจากคนเหล่านี้จะไม่โดนลงโทษแล้ว ยังได้ของที่ต้องการอีกต่างหาก ดีไม่ดี ได้รับรางวัลปูนบำเน็จกันด้วย แบบนี้ใครมันจะไม่อยากทำตามครับ จนทำให้สงสับว่า นี้เราอยู่ในรังโจรรึเปล่า
ผมขอเรียนยืนยันเลยว่าสังคมไทยของเราใกล้เข้าสู่ยุคเมืองโจรเต็มทีแล้ว เมืองโจรที่ว่าคือเมืองที่ใครมืยาวสาวได้สาวเอา ไม่ต้องเคารพสิทธิของใคร ถ้าไม่พอใจอะไรก็ใช้ความรุนแรงจัดการได้ เพราะตำรวจไม่มีปัญญาทำอะไรอยู่แล้ว ถ้าคุณมีเงินเยอะหรือพวกเยอะ
กฏหมายกลายเป็นแค่เศษกระดาษเขียนไว้ปกครองพลเมืองดี แต่สำหรับพวกโจร กฏหมายไม่มีความหมายอยู่แล้ว ถ้าเงินเยอะ หรือ พวกเยอะ (หรือทั้งสอง) จะทำอะไรก็ได้ครับ ไม่มีทางที่เงื้อมมือของกฏหมายจะมาแตะต้องได้
ประเทศไทยเคยภาคภูมิใจกับประวัติศาสาตร์ที่ยาวนานและความเป็นอารยะของตนเอง วันนี้มันแทบไม่เหลือแล้วครับ เราได้เคยย้อนถามตัวเองไหมว่า เกิดอะไรขึ้นกับประเทศของเรา ?
ยังไม่สายเกินไปหรอกครับ ที่จะแก้ไขแต่ต้องรีบทำโดยด่วน เรื่องทั้งหมดมันมีสาเหตุมาจากหลายสาเหตุแต่หลักๆผมคิดว่ามันมาจากการปลูกฝังเรื่องสิทธิและหน้าที่ที่ผิดๆตั้งแต่วัยเด็ก ลองมองดูรอบๆตัวของท่านซิครับ ผู้ใหญ่ในสังคมของเรากำลังปลุกฝังค่านิยมเลวร้ายให้เด็กๆทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ ลองดูอย่างเรื่องเล็กๆเช่นการ แทรกรถที่ทางขึ้นสะพาน หรือแทรกรถที่ยูเทริ์น มันเป็นการบอกกับเด็กของเราว่า “it’s alright not to obey the queue” หรือการที่พ่อทุบตีแม่หรือใช้ความรุนแรงทางวาจาแก่กัน มันเป็นการบอกกับเด็กเราว่า “it’s ok to use violence” หรือการที่หัวหน้าครอบครัว กินเหล้าเมายา ติดการพนัน เปิดบ่อนกันกลางงานศพ มันก็เป็นการบอกกับเด็กของเราว่า “it’s ok to be a bad and disgusting person” หรือการที่ผู้ใหญ่ไม่เคารพกฏหมายและไม่ถูกลงโทษ มันเป็นการบอกกับเด็กของเราว่า “it’s ok not to obey the law becuase it’s just bad joke” ลองคิดดูซิครับว่าเราได้สร้างเยาวชนรุ่นหลังแบบไหนขึ้นมา เราสร้างบรรทัดฐานอะไรให้กับลูกหลานของเรา เราประเทศไทยของเราจะเป็นยังไงต่อไป
ยังไม่สายนะครับที่จะช่วยกันสร้างบรรทัดฐานที่ดีให้กับสังคมของเรา
ขอบคุณครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น