วันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ความหมายของการดำรงอยู่


ความหมายแห่งการดำรงอยู่
วันนี้ไม่อยากรีวิวหนังสือ แต่อยากเขียนถึงเรื่องที่ผมพยายามหาคำตอบมาตลอดชีวิตถึงความหมายของการดำรงอยู่ของมนุษย์บนโลกใบนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่คิดๆแล้วจะปวดตับมากเพราะมันเป็นคำถามที่หาคำตอบยากเหลือเกิน
การมีมนุษย์อยู่บนโลกใบนี้มันเป็นเพราะอะไร แล้วจะมีไปทำไมกัน
ไม่ว่าคุณจะเชื่อว่าพระเจ้าหรือธรรมชาติสร้างเรามาก็แล้วแต่ เชื่อว่าหลายคนยังหาคำตอบที่น่าพอใจต่อคำถามนี้ยังไม่ได้ 
ตอนเด็กผมถามคุณแม่เรื่องนี้ ผมจำไม่ได้แล้วว่าแม่ตอบว่าอะไรแต่จำได้การสนทนายังไม่ได้ข้อสรุป
ตอนโตขึ้นหน่อยผมถามคุณครูเรื่องนี้ การสนทนาไม่ได้ข้อสรุปเช่นกัน แต่ผมลงเอยได้ไปยืนหน้าห้อง สงสัยเถียงคุณครูหนักไปหน่อย
โตอีกนิดในวงเหล้าของเพื่อนสนิท เราก็คุยกันเรื่องนี้แต่ก็ไม่ได้ข้อสรุปอีกเช่นเคย ส่วนใหญ่เป็นเพราะว่าไม่เราเปลี่ยนไปคุยกันเรื่องอื่นก่อน ก็เพราะเราเมาจนจำอะไรไม่ได้ -_-”
ผมใช้เวลาอีกหลายปีในการหาคำตอบให้ตัวเอง จนเมื่อไม่นานมานี้ผมตกผลึกได้แล้วว่าเราจะมีตัวตนอยู่เพื่ออะไร
ผมคิดว่าเราทุกคนมีจะมีความหมายที่จะอยู่บนโลกใบนี้เพียงข้อเดียวเท่านั้นคือ เพื่อพัฒนาเผ่าพันธุ์มนุษย์ให้ดียิ่งขึ้น 
เหมือนในโฆษณาของ Apple ชิ้นนึงที่ผมชอบมากชื่อ Think Different ซึ่งมีประโยคหนึ่งในนั้นที่ว่า “To push the human race forward” ซึ่งผมเชื่อเหลือเกินว่านี่แหละคือความหมายของการดำรงอยู่ของมนุษย์
ครับ ประโยคเดียวสั้นๆง่ายๆ แต่ช่างมีมิติที่หลากหลายเหลือเกิน และด้วยความหลากหลายของมันนี่เองครับ ที่ทำให้มนุษย์ทุกคนมีสิทธ์ที่จะทำหน้าที่นี้ได้ แต่อาจจะมีไม่เยอะที่ทำได้อย่างสมบูรณ์ 
ถ้าหากกรอบของเรื่องคือการพัฒนาเผ่าพันธุ์มนุษย์เฉยๆโดยไม่สนว่าต้องดีขึ้นหรือเลวลง เชื่อว่ามีคนทำสำเร็จค่อนข้างเยอะทีเดียวแต่อาจจะไปในแนวทางพัฒนาให้เลวลงมากกว่า
บุคคลที่ช่วยพัฒนาเผ่าพันธุ์มนุษย์ให้"ดีขึ้น" จึงหลายเป็น rare breed คือหายากมากนั้นเอง
หลายคนอาจคิดว่า เรานี่ก็ไม่รวย ไม่เก่ง ใ้ช้ชีวิตไปวันๆจะไม่ไปอะไรได้ ผมตอบแทนได้เลยว่าทำได้แน่นอน แต่ต้องพยายามและทำจริงครับ ผมจะขอยกตัวอย่างบุคคลที่ผมนึกออก เช่น ดต วิชัย สุริยุทธ (เข้าใจว่ายปัจจุบันคือ รตต) นายตำรวจที่ปลูกต้นไม้ไป 2 ล้านต้น ไม่ต้องเก่งไม่ต้องรวยก็ช่วยกันพัฒนาเผ่าพันธุ์มนุษย์ได้ครับ 
คุณจะเป็นใครอยู่ในหน้าที่ไหน ยาก ดี มี จน เพียงไรไม่สำคัญ ถ้าใจสู้ก็ทำได้หมดล่ะครับ
แต่การพูดนั้นง่ายกว่าการลงมือทำจริงเยอะ
จึงมีคน “คิด” ได้เยอะแต่ “ทำ” ได้น้อย
การดำรงอยู่โดยมีเป้าหมายอันยิ่งใหญ่นี่เองทำให้ชีวิตของเรามีความหมายมากขึ้น ทำให้เรามีกำลังใจในการต่อสู้กับปัญหาทุกสิ่ง เพราะเรารู้ว่าถ้าโลกนี้ขาดเราไปมันอาจจะไม่ดีเท่านี้ก็ได้ และที่สำคัญมันทำให้รู้สึกว่าเราเป็นส่วนหนึ่งของอะไรบางอย่างที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเรา 
การละเมียดละไมใช้ชีวิตให้มีความสุขคนเดียวคงไม่พอแล้วล่ะครับ การได้สร้างสรรค์ผลงานดีๆและได้สร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นหลังต่อไปนั้น เป็นสิ่งที่เราต้องบรรจุเข้ามาเป็น agenda หลักของการใช้ชีวิตเพราะไม่เพียงแต่คุณจะทำชีวิตคนอื่นให้ดีขึ้นแต่ชีวิตของตัวคุณเองก็จะดีขึ้นด้วยเช่นกัน
น่าจะเป็นนิยามของความสุขที่แท้จริงนะครับผมว่า
ว่าแต่วันนี้คุณร่วมพัฒนาเผ่าพันธุ์ของเราให้ดีขึ้นแล้วหรือยัง?
Rawit in Thailand 

4 ความคิดเห็น:

  1. สำหรับผม ผมมองว่า เป้าหมายของ การดำรงอยุ่ ของคนเราคือเพื่อ ทำให้ผู้อื่น มีความสุข อาจจะคล้ายๆ กับที่พี่มอง แต่คงต่างกันในรายละเอียดครับ

    ตอบลบ
  2. จำไม่ได้ว่า ใครเคยตอบไว้ แต่มีคนเคยตอบว่า การที่เราเกิดมา ก็เพื่อหาคำตอบของการดำรงอยู่เนี่ยแหละค่ะ
    บางคนบอกเกิดมาใช้กรรม ทั้งกรรมดี กรรมชั่ว
    บางคนบอกเกิดมาเพื่อนิพพาน ไม่เกิดเป็นมนุษย์นิพพานไม่ได้
    บางคนเน่าหน่อย บอกเกิดมาเพื่อรักเธอ(เธอ และเธอ)

    สำหรับตวง เราเกิดมาเพื่อเรียนรู้ เราดำรงอยู่เพื่อสร้างความหมายให้กับตัวเอง แต่ละคนแน่นอนว่าต้อง มีเหตุผลแตกต่าง เพราะถ้าจะเกิดมาแล้วดำรงชีวิตเหมือนกันโลกคงไม่ได้เป็นแบบนี้

    ทำให้การดำรงอยู่ของเราสุขที่สุดที่เราจะเป็น โดยไม่เบียดเบียนใคร สร้างความสุขให้คนอื่นบ้างเมื่อเราทำได้ เพราะการให้เราก็สุขเหมือนกัน นี่คือ ความหมายการดำรงอยู่ของตวงค่ะ ^___^

    ตอบลบ
  3. ขอบคุณน้องทั้งสองที่มาอ่านนะครับมีไรติชมได้นะ พี่จะได้ไปพัฒนางานอดิเรกของพี่ให้น่าสนใจมากขึ้น

    ตอบลบ
  4. แนะนำให้เปลี่ยน Wall paper ด่วน อ่านยากมาก

    ตอบลบ